วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

In Love

ความรู้สึกแอบรักเกิดขึ้นกับเราอีกแล้ว ตอนนี้เราแอบรักครูท่านหนึ่งในฐานะแม่ เราไปเจอท่านโดยบังเอิญใน Face book เรารู้สึกถูกชะตากับท่าน ก็เลยส่งคำขอเป็นเพื่อนไป ทันทีที่ท่านรับแอด เรารู้สึกดีใจมาก รีบเม้นหาท่านทันทีเช่นกัน ท่านน่ารักมาก ตอบทุกคอมเมนเลย และแต่ละประโยคที่ท่านตอบมา มันยิ่งทำให้เรารู้สึกรักท่านมากยิ่งขึ้น ท่านน่ารักมาก แลดูอบอุ่น เป็นกันเอง ทุกครั้งที่เฟิด Face book ขึ้นมา เราจะต้องเข้าไปหน้า wall ท่านทุกครั้ง อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้คลายควมคิดถึงลงได้บ้าง เราไม่ชอบความร้สึกที่ต้องแอบรักเลย เราอยากบอกท่านไปตรงๆ ว่าเรารักท่านในฐานะแม่ แต่เราก็ไม่กล้า เกรงว่าท่านจะไม่ชอบใจ เพราะมันเร็วเหลือเกิน แต่อีกไม่นานเราจะต้องบอกให้ท่านรู้ให้ได้ ว่าเรารักท่าน และรักมาก ^^

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จรรยามารยาทบนอินเตอร์เน็ต


จรรยามารยาทบนอินเทอร์เน็ต (Netiquette) ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในแทบทุกด้าน รวมทั้งได้ก่อให้เกิดประเด็นปัญหาขึ้นในสังคม ไม่ว่าในเรื่อง ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย เสรีภาพของการพูดอ่านเขียน ความซื่อสัตย์ รวมถึงความตระหนักในเรื่องพฤติกรรมที่เราปฏิบัติต่อกันและกันในสังคมอินเทอร์เน็ต ในบทความนี้ผู้เขียนขอทบทวนเรื่อง จรรยามารยาทบนอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกกันในกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า Netiquette เพื่อให้เป็นของฝากสำหรับสมาชิกใหม่ที่เรียกกันว่า Net Newbies และให้เป็นของแถมเพื่อการทบทวนสำหรับนักท่องเน็ตที่เป็น ขาประจำ

Netiquette คืออะไร
Netiquette เป็นคำที่มาจาก network etiquette หมายถึง จรรยามารยาทของการอยู่ร่วมกันในสังคมอินเทอร์เน็ต หรือ cyberspace ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้ามาแลกเปลี่ยน สื่อสาร และทำกิจกรรมรวมกัน ชุมชนใหญ่บ้างเล็กบ้างบนอินเทอร์เน็ตนั้น ก็ไม่ต่างจากสังคมบนโลกแห่งความเป็นจริง ที่จำเป็นต้องมีกฎกติกา (codes of conduct) เพื่อใช้เป็นกลไกสำหรับการกำกับดูแลพฤติกรรมและการปฏิสัมพันธ์ของสมาชิก

บัญญัติ 10 ประการสำหรับผู้เริ่มต้น
ถ้าศึกษาค้นคว้าในเรื่อง Netiquette บนเว็บ จะพบการอ้างอิงและกล่าวถึง The Core Rules of Netiquette จากหนังสือเรื่อง “Netiquette” เขียนโดย Virginia Shea ซึ่งเธอได้บัญญัติกฎกติกาที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพึงตระหนักและยึดเป็นแนวปฏิบัติ 10 ข้อ ดังนี้

Remember the Human

กฏข้อที่ 1 เป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในขณะที่เรานั่งพิมพ์ข้อความเพื่อติดต่อสื่อสารผ่านจอคอมพิวเตอร์นั้น ต้องไม่ลืมว่าปลายทางอีกด้านหนึ่งของการสื่อสารนั้นที่จริงแล้วก็คือ “มนุษย์”

Adhere to the same standards of behavior online that you follow in real life

กฎข้อที่ 2 เป็นหลักคิดง่าย ๆ ที่อาจจะยึดเป็นแนวปฏิบัติ หากไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร ก็ให้ยึดกติกามารยาทที่เราถือปฏิบัติในสังคมมาเป็นบรรทัดฐานของการอยู่ร่วมกันแบบออนไลน์

Know where you are in cyberspace

กฎข้อที่ 3 เป็นข้อแนะนำให้เราใช้งานอย่างมีสติ รู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ ณ ที่ใด เมื่อเข้าในพื้นที่ใหม่ ควรศึกษาและทำความรู้จักกับชุมชนนั้น ก่อนที่จะเข้าร่วมสนทนาหรือทำกิจกรรมใด ๆ

Respect other people's time and bandwidth

กฎข้อที่ 4 ให้รู้จักเคารพผู้อื่นด้วยการตระหนักในเรื่องเวลา ซึ่งจะสัมพันธ์กับขนาดช่องสัญญาณของการเข้าถึงเครือข่าย นั่นคือ ให้คำนึงถึงสาระเนื้อหาที่จะส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มสนทนาหรือการส่งอีเมล เราควรจะ “คิดสักนิดก่อน submit” ใช้เวลาตรึกตรองสักหน่อยว่า ข้อความเหล่านั้นเหมาะสมหรือมีสาระประโยชน์กับใครมากน้อยเพียงใด

Make yourself look good online

กฎข้อที่ 5 เป็นข้อแนะนำผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการเขียนและการใช้ภาษา เนื่องจากปัจจุบันวิธีการสื่อสารบนเน็ตใช้การเขียนและข้อความเป็นหลัก การตัดสินว่าคนที่เราติดต่อสื่อสารด้วยเป็นคนแบบใด จะอาศัยสาระเนื้อหารวมทั้งคำที่ใช้ ดังนั้น ถ้าจะให้ “ดูดี” ก็ควรใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมและตรวจสอบคำสะกดให้ถูกต้อง

Share expert knowledge

กฎข้อที่ 6 เป็นข้อแนะนำให้เรารู้จักใช้จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบของอินเทอร์เน็ต นั่นคือ การใช้เครือข่ายเพื่อเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยน ”ความรู้” รวมทั้งประสบการณ์กับผู้คนจำนวนมาก ๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

Help keep flame wars under control

กฎข้อที่ 7 เป็นข้อคิดที่ต้องการให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยควบคุมและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการส่งความคิดเห็นด้วยการใช้คำที่หยาบคาย เติมอารมณ์ความรู้สึกอย่างรุนแรงจนเป็นชนวนให้เกิดกรณีทะเลาะวิวาทกันในกลุ่มสมาชิก ซึ่งรู้จักกันในกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า “flame”

Respect other people's privacy

กฎข้อที่ 8 เป็นคำเตือนให้เรารู้จักเคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น เช่นไม่อ่านอีเมลของผู้อื่น เป็นต้น

Don't abuse your power

กฎข้อที่ 9 เป็นคำเตือนสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ผู้ดูแลระบบบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมักจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่น บุคคลเหล่านี้ก็ไม่ควรใช้อำนาจหรือสิทธิ์ที่ได้รับไปในทางที่ไม่ถูกต้องและเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น

Be forgiving of other people's mistakes

กฎข้อที่ 10 เป็นคำแนะนำให้เรารู้จักให้อภัยผู้อื่น โดยเฉพาะพวก newbies ในกรณีที่พบว่าเขาทำผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม และหากมีโอกาสแนะนำคนเหล่านั้น ก็ควรจะชี้ข้อผิดพลาดและให้คำแนะนำอย่างสุภาพ โดยอาจส่งข้อความแจ้งถึงผู้นั้นโดยตรงผ่านทางอีเมล

ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต


ตามที่กล่าวมาแล้วว่า อินเตอร์เน็ต คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ครอบคลุม ไปทั่วโลก พร้อมกับมีข้อมูลมหาศาล ทุกประเภท ให้เราค้นคว้า และรับส่งข้อมูล ไปมาระหว่างกันได้ ในตอนนี้ จะขอยกตัวอย่างประโยชน์ ของการใช้งานอินเตอร์เน็ต ด้านต่าง ๆ ให้เห็นพอสังเขป


ในด้านการศึกษา เราต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลทางวิชาการจากที่ต่าง ๆ ซึ่งในกรณีนี้ อินเตอร์เน็ต จะทำหน้าที่เหมือนห้องสมุด ขนาดยักษ์ ส่งข้อมูลที่เราต้องการ มาให้ถึงบนจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านหรือที่ทำงานของเรา ไม่กี่วินาทีจากแหล่งข้อมูลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม ศิลปกรรม สังคมศาสตร์ กฎหมายและอื่นๆ


อีกส่วนที่เกี่ยวข้องกันก็คือ ประโยชน์การรับส่งข่าวสาร ผู้ใช้ที่ต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กตรอนิกส์ หรือ E-mail กับผู้ใช้คนอื่นๆ ทั่วโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ได้โดยค่าใช้จ่ายต่ำมาก นอกจากนี้ ยังอาจส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฟ้มข้อมูล รูปภาพ ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ที่เป็นภาพและเสียง ได้อีกด้วย


สำหรับด้านธุรกิจและการค้า ช่วยในการซื้อขายสินค้าผ่านคอมพิวเตอร์ เราสามารถเลือกดูสินค้า พร้อมคุณสมบัติผ่านจอคอมพิวเตอร์ของเรา และสั่งซื้อ และจ่ายเงินด้วย บัตรเครดิตได้ทันที ซึ่งนับว่าเป็นความสะดวกสบาย และรวดเร็วมาก สินค้ามีจำหน่าย ทุกประเภท เหมือนห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เลยทีเดียว


นอกจากนี้ ผู้ใช้ ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ หรือ สนับสนุน ลูกค้าของตน ผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การตอบคำถาม หรือข้อสงสัยต่าง ๆ ให้คำแนะนำ รวมถึงข่าวสารใหม่ๆแก่ลูกค้าได้


ประโยชน์อินเตอร์เน็ต ที่ผู้ใช้กันมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ ความบันเทิง และการ พักผ่อนหย่อนใจ หรือสันทนาการ เช่น เลือกอ่านวารสารต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่เรียกว่า magazine แบบ online รวมถึงหนังสือพิมพ์ และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบบนจอคอมพิวเตอร์ เหมือนกับหนังสือ ปกติที่เราดูอยู่กันทุกวัน


นอกเหนือจากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา ซึ่งล้วนแต่เป็นในมุมมอง ของผู้ใช้ข้อมูล หรือบริการทั่ว ๆ ไป แล้ว ในแง่ของผู้ให้ข้อมูล เช่น ผู้ผลิตสินค้า และบริการต่าง ๆ อินเตอเน็ตก็มีประโยชน์ตรงที่ เป็นช่องทางสำหรับ การเผยแพร่ข้อมูลของตนเอง ได้ในวงกว้าง ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ แถมยังสามารถเข้าถึง กลุ่มคนที่ใช้งานอินเตอร์เน็ต (ซึ่งนับได้ว่าเป็น"หัวกะทิ" ของกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย ที่น่าจะมีกำลังซื้อมากพอสมควร) ได้โดยตรง การโฆษณาเผยแพร่ เรื่องต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต จึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเป็นช่องทาง
หรือเวทีในการแสดงความคิดเห็น ถกเถียงแลกเปลี่ยนทัศนะในเรื่อง ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ ที่สามารถตอบโต้กันได้ ชนิดทันต่อเหตุการณ์ หรือความเปลี่ยนแปลง และค่อนข้าง จะเป็นอิสระ ต่อการควบคุม หรือกลั่นกรอง ขององค์กรหรือหน่วยงานในภาครัฐ ของแต่ละประเทศ


ว่ากันว่า ความล่มสลายของสหภาพโซเวียต หรือความเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก มีส่วนมาจาก ข่าวสารขอ้มูลของโลกภายนอก ที่ผ่านเข้ามาในบริเวณเหล่านั้น ผ่านทาง เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และรวมถึงอินเตอร์เน็ตด้วย อย่างไรก็ตาม ความง่าย ราคาถูก และรวดเร็วของโฆษณา เผยแพร่ทาง อินเตอร์เน็ต บางครั้งก็มีผลในทางตรงกันข้าม กลายเป็นการ เปิดโอกาส ให้ใคร ๆ ก็สามารถเผยแพร่ขอ้มูล ในเรื่องที่ไม่ดีไม่งาม หรือให้ร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย โดยลงทุนลงแรงเพียงเล็กน้อย แถมยังมีผล ในวงกว้างไปทั่วโลกอีกด้วย

ใช้ร้านอินเตอร์เน็ตให้ปลอดภัย

ใช้แฟลชไดรฟ์ให้เป็นประโยชน์

เดี๋ยวนี้แฟลชไดรฟ์มีราคาถูกอย่างน่าใจหาย เมื่อ 3 ปีก่อน เราเคยซื้อแฟลชไดรฟ์ 128 MB ในราคา 1,200 บาท เวลานี้ ขนาด 1 GB มีราคาเพียง 190 บาทเท่านั้น เมื่อแฟลชไดรฟ์กลายเป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่สามารถหาซื้อและพกพากันได้ทั่วไป เราจะประยุกต์ใช้ความสามารถจากแฟลชไดรฟ์มาช่วยป้องกันตัวจากโปรแกรมมัลแวร์ สปายแวร์ และไวรัส ตามร้านอินเทอร์เน็ตกันดีกว่า

เริ่มจากดาวน์โหลดโปรแกรมที่ชื่อ Avast ไวรัสคลีนเนอร์ ได้ที่www.avast.com/eng/down_cleaner.html ความสามารถของโปรแกรมตัวนี้ก็คือ ทำงานได้ด้วยตัวของมันเองโดยไม่ต้องติดตั้งลงตัวเครื่อง สามารถตรวจจับไวรัสเวิรม์และมัลแวร์ในเครื่องที่เราใช้งานได้ วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่คลิกสตาร์ต โปรแกรมก็จะเริ่มสแกนเครื่องให้เราทั้งเครื่องทันที โดยใช้เวลาไม่นานนัก ขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์ในฮาร์ดดิสก์ด้วย

ที่เราใช้โปรแกรมตัวนี้ก็คือ ช่วยสแกนหาไฟล์ไวรัส และโปรแกรมที่จะเป็นอันตรายต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ต แล้วถ้าฆ่าไม่ได้ก็ไม่ต้องสนใจครับ ปล่อยเอาไว้อย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องของร้าน แต่เวลาเรากลับบ้านต้องเอาแฟลชไดรฟ์มาสแกนไวรัสอีกที

โปรแกรมต่อมาก็คือ โปรแกรม cpe17 ผลงานของนักศึกษาลาดกระบัง ซึ่งช่วยในการกำจัดไวรัสพวกออโตรันได้เป็นอย่างดี หากเครื่องคุณมีอาการดับเบิลคลิกเปิดแฟลชไดรฟ์ หรือไดรฟ์ใดไดรฟ์หนึ่งไม่ได้ ต้องคลิกขวาเลือกโอเพนเท่านั้น หรือปรากฏไฟล์สคริปต์ประหลาดโผล่อยู่ทั่วเครื่อง โปรแกรมตัวนี้ช่วยคุณได้แน่นอน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.thaiware.com/main/info.php?id=9307

2 โปรแกรมนี้ควรมีติดแฟลชไดรฟ์เอาไว้ครับ แถมให้อีกตัวก็คือ โปรแกรมแอนตีสปายแวร์ที่สามารถกำจัดสคริปต์ โหลดออปเจกต์ประหลาดในเครื่องของเราได้ แต่ต้องติดตั้งลงเครื่องเท่านั้นนะครับ ไม่สามารถรันได้ด้วยตัวเอง โหลดได้ที่ www.antispyware.com/download.php เผื่อบางร้านเขาไม่ได้ล็อกรหัสป้องกันการลงโปรแกรมเอาไว้

เปลี่ยนการบันทึกในเบราเซอร์

ร้านอินเทอร์เน็ตบางร้านจะตั้งค่าเบราเซอร์ให้จดจำรหัสผ่านเอาไว้ เราสามารถเข้าไปแก้ไขได้ที่ Tools>Internet Options>เลือก Tab-Contents ไปที่ Auto complete> จากนั้นให้ติ๊กช่อง Username and password on forms และช่อง Prompt me to save password ออก เท่านี้เครื่องก็จะไม่จำล็อกอิน และพาสเวิรด์ของเราแล้ว เว้นแต่ว่าเครื่องนั้นจะลงโปรแกรมพวกคีย์ล็อกเกอร์ ซึ่งเราไม่สามารถตรวจจับได้ นอกจากลงโปรแกรมแอนตีสปายแวร์ ซึ่งทางร้านก็มักจะล็อกการลงโปรแกรมเอาไว้เพื่อป้องกันตัวของเขาเองอีกส่วนหนึ่ง เวลาใช้งานจึงต้องระวังข้อความ ที่เป็นส่วนตัวนิดนึงครับ

สิ่งที่ไม่ควรกรอกในร้านอินเทอร์เน็ต

หากเราไม่สามารถป้องกันโปรแกรมสปายแวร์ ควรจำไว้ว่าสิ่งต่อไปนี้อย่าพิมพ์ในร้านอินเทอร์เน็ตเป็นอันขาด

1.ล็อกอินและพาสเวิรด์อีเมล เราควรมีอีเมลปลอมสักหนึ่งเมล ที่ไม่สำคัญต่อการใช้งาน เอาไว้ใช้ในร้านอินเทอร์เน็ต หรืองานบางอย่างที่เปิดเผยได้โดยไม่ซีเรียสมาก ใช้เมลปลอมในร้านเน็ต ถ้าไม่มีให้สมัครใหม่ทันที

2.อย่าเข้าใช้งานเว็บไซต์ด้านการเงินในร้านอินเทอร์เน็ต เว็บพวกเพย์พาล หรือเว็บไซต์ธนาคารไม่ควรใช้เด็ดขาด แต่ล็อกอินสมาชิกเว็บคอมมูนิตีต่างๆ ใช้งานได้ตามปกติ เพราะเว็บเหล่านี้ถึงร้านจะเอาไปใช้ก็ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรกับเรา ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนพาสเวิร์ดได้ในเครื่องคอมพ์ที่บ้าน

3.โปรแกรมแชต ไม่ควรใช้โปรแกรมแชต เพราะเป็นโปรแกรมที่เป็นช่องทางในการส่งไวรัส และโทรจันชั้นยอดอย่างหนึ่ง แม้เราจะใช้อีเมลปลอมในการใช้งานคุยกับเพื่อน แต่เพื่อนเราจะซวยที่โดนไวรัสทางโปรแกรมแชตไม่รู้ตัว ถ้ารักเพื่อนก็อดใจไว้นิดนึง โทร.คุยหรือกลับไปล็อกอินที่บ้านก็ไม่ขาดจากความเป็นเพื่อนหรอกครับ

ทั้งหมดนี้คือคำแนะนำสั้นๆ ในการเข้าใช้งานร้านอินเทอร์เน็ต เดี๋ยวคราวหน้าเรามาดูกันว่าร้านเน็ตหน้าตาแบบไหนที่ไว้ใจได้ หรือไม่ได้ นั่งตรงไหนปลอดภัยมากที่สุด และวิธีการแก้เผ็ดร้านที่เราจับได้ว่าลงโปรแกรมสปายแวร์เอาไว้

เทคนิคการโปรโมทเว็บ และ Blog ให้ติดอันดับด้วย SEO ขั้นพื้นฐาน


การโปรโมทเว็บ blog หรือ Web ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่จะเอาดีในด้านการให้ข้อมูลอย่างมืออาชีพ ด้วยเหตุที่ว่าเราจะสร้างเว็บ หรือ blog มาทำไมในเมื่อไม่อยากให้ใครเห็น หรือ ใครพบเว็บ หรือ บล็อกของเรา

ในการเขียนบล็อก หรือ เว็บไซต์นั้น สำหรับธุรกิจโดยทั่วไปย่อมหวังที่จะให้ได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีมา Internet ก็คืออีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้เกิดช่องทางในการนำเสนอสินค้าและบริการ สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป แต่ด้วยเหตุที่ในการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ เหล่านั้นต่างก็มีผู้ประกอบการต่าง ๆ มากมายนำเสนอเช่นเดียวกันเป็นจำนวนมากหลายหมื่นหลายล้านเว็บไซต์ทั่วประเทศ เครื่องมือค้นหาอย่าง Search Engine? ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น จึงมีการนำเสนอโฆษณารูปแบบ PPC (จะนำเสนอในครั้งต่อไป) แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุก ๆ เดือนไปตลอดที่มีการโฆษณา เมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการโฆษณาเว็บของเรา หรือ blog ของเราก็จะหายไปในบัดดล เว้นแต่ว่าคุณได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาการทางด้าน SEO มาก่อนที่จะหยุดทำการโฆษณานั้น ๆ จนติดหน้าแรกไปแล้ว

การ
โปรโมทเว็บเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องมีการวางแผนที่ ดี แต่ก็อาจเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางครั้งอาจมองว่าไม่คุ้มกับการ โปรโมทเว็บ หรือ โปรโมทบล็อก ด้วยซ้ำไปวันนี้ Make Many จะนำเสนอเรื่องราวทางด้านเทคนิคในขั้นพื้นฐานสำหรับการโปรโมทเว็บ หรือ โปรโมท blog กันครับที่ประหยัดเวลาและไม่ต้องเสียเงินในการโปรโมทด้วยครับ

เทคนิคการ
โปรโมทเว็บ หรือ blog ให้ติดอันดับใน Search Engine ก่อนที่เราจะทำการโปรโมทเว็บ หรือ โปรโมทเว็บ blog ของเรานั้นเราต้องทำการสำรวจ ข้อมูลและเว็บ หรือ blog ของเราเสียก่อนครับโดยให้คุณดำเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ครับ เพื่อง่ายต่อการเข้าใจคุณสามารถ ศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม เรื่อง “SEO คืออะไร” และ “Blog กับ SEO” กันเสียก่อนหนะครับจะได้เข้าใจตรงกันครับ

ขั้นตอนการ
โปรโมทเว็บไซต์/โปรโมท blog

1. Study ทำการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ คีเวิร์ดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ เว็บหรือบล็อกของเรา รวมไปถึงคีเวิร์ดที่ไกล้เคียงกันให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับอะไร คำค้นหาหลักอะไร หรือ สินค้าอะไร ได้ยิ่งดีเอาแบบตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะถ้าหากว่าทำแบบกว้าง ๆ อาจไม่ได้ผลในทางที่เป็นการค้าหรือธุรกิจควรให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ครับ

2. Website Optimization ทำการปรับปรุงเนื้อหา และ การปรับแต่งเว็บเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการ SEO ตามแบบฉบับที่เหมาะสม หลักการก็คือพยายามใช้ HTML แบบโบราณให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นจะทำให้ Search Engine ชอบมาก ๆ ครับ ถ้าหากไม่ทราบแนวทางในการปรับแต่งสามารถศึกษาข้อมูลการปรับแต่งแบบโบราณได้ จาก W3C ครับ

3. Website Submission คือการส่งบัติเชิญเหล่า Search Engine ต่าง ๆ ให้มาเก็บข้อมูลที่เราได้ทำการปรับปรุงใหม่นั้น ๆ เพื่อให้ได้รับการ Index ข้อมูลใหม่ ๆ เข้าไปและเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลให้กับ Search Engine ด้วยครับ

4. Evaluation ทำการติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูความเคลื่อนไหวในการติดอันดับในระดับต่าง ๆ และ คีเวิร์ดต่าง ๆ ด้วยครับ

5. Fine Tuning ปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์ หรือ บล็อกของเราตลอดเวลาครับ หรือ ทุกวันได้จะดีมากครับเพราะจะทำให้ Robot ของ Search Engine เข้ามาทำการเก็บข้อมูลบล็อก หรือเว็บของเราเป็นประจำ ข้อสำคัญต้องสอดคล้องกับ Keyword ของเราด้วยหนะครับ

เพียงเราทำตาม ขั้นตอนต่าง ๆ แบบง่าย ๆ อย่างนี้ไม่เกิน 6 เดือน Blog หรือ Website ของเราก็จะเริ่มติดอันดับไปทีละ Keyword เรื่อย ๆ และ น่าจะได้อันดับที่ดีพอสมควรครับ ในการ
โปรโมทเว็บ หรือ blog ด้วยหลักการทาง SEO นั้นต้องอาศัยระยะเวลา เนื่องจากเราต้องรอให้ Search Engine ต่าง ๆ ได้ทำการปรับปรุงเว็บเราไปให้ได้มากที่สุดเสียก่อน หรือ ให้ตรงกับคีเวิร์ดของเราให้มากที่สุดก่อน แต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวครับ เพราะถ้าเราติดอันดับแล้วเราก็จะทำการปรับปรุงพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนนิ่งและได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องข้อมูลมากขึ้น.

วิธีเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ต


โดยปกติแล้ว window จะ บล็อกความเร็วเน็ต ไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ เรามีวิธีปลดบล๊อกได้ด้งนี ติดจรวดเล่นอินเตอร์เน็ตให้กับ Windows XP
การใช้งานอินตอร์เน็ตบางครั้งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายด้าน เราก็ พยายามหาหนทางปรับแต่งให้ถูกใจ
และถูกเงิน วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ทำให้การท่องอินตอร์เน็ตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น